อภิสิทธิ์ รุจิเกียรติกําจร
ประธานกรรมการ

ในปี 2565 ยังคงเป็นปีแห่งความท้าทายในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกในทุกมิติ ทั้งสถานการณ์เศษฐกิจโลกที่ชะลอตัว อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ราคาน้ำมันโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นและมีความผันผวนจากสถานการณ์ ความขัดแย้งระหว่างประเทศมหาอำนาจ การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีส่งผลให้องค์กรต้องปรับตัวและเตรียมพร้อมกับการก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลและเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ (Low-Carbon Economy) มุ่งเน้นการบริหารจัดการเพื่อลดการปล่อยก๊ซเรือนกระจก และการใช้พลังงานและทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจไทยปี 2565 ยังมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปี 2564 ตามการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว และการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องของอุปสงค์ภายในประเทศทั้งการบริโภค และการลงทุนภาคเอกชน

ท่ามกลางความท้าทายต่อสภาวการณ์ที่เปลี่ยนแปลง บริษัท ซีออยล์ จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ)ยังคงมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้านพลังงาน ธุรกิจจัดหาและบริการ เพื่อให้องค์กรมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง มุ่งเน้นการบริหารจัดการตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน สร้างความสมดุลตลอดห่วงโซ่คุณค่าธุรกิจ ทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างมูลค่าระยะยาวให้กับองค์กร บริษัทฯได้ปรับเปลี่ยนแผนกลยุทธ์และแผนธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อรับมือกับผลกระทบทางเศรษฐกิจ และตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า คู่ค้าและผู้มีส่วนได้เสียขององค์กรทุกกลุ่ม ตามบริบทที่เปลี่ยนแปลงไป อาทิ การพัฒนาและยกระดับคุณภาพการให้บริการ มาตรฐานด้านความปลอดภัย นวัตกรรมด้านโภชนาการ การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงกระบวนการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุดและรวดเร็วมากขึ้น การสร้างงานและส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน ตลอดจนการสนับสนุนและรณรงค์การใช้ผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Product)

ด้วยความร่วมมือร่วมใจ และมุ่งมั่นในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถของคณะกรรมการ ผู้บริหาร ตลอดจนพนักงานทุกระดับ ส่งผลให้ผลประกอบการ โดยรวมของบริษัทฯ ในปี 2565 มีกำไรสุทธิ 441 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 91 เมื่อเทียบกับปี 2564 รายได้จากการขายและบริการรวมในปี 2565 จำนวน 21,669 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 92 เมื่อเทียบกับปีก่อน รายได้ที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เกิดจากรายได้จากการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง โดยบริษัทฯมีปริมาณการจำหน่ายน้ำมันโดยรวมในปี 2565 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 18 คณะกรรมการบริษัทฯ ตระหนักถึงความสำคัญในการดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใสและเป็นธรรม รับผิดชอบต่อสังคม ชุมชนและสิ่งแวดล้อม คำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย พัฒนาการกำกับดูแลกิจการที่ดีอย่างต่อเนื่อง และในปี 2565 บริษัทฯ ได้รับผลประเมินการกำกับดูแลกิจการที่ดีในระดับ 5 ดาว "ดีเลิศ" ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ตามโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย (Corporate Governance Report of ThailListed Company) และได้ผ่านการรับรองการต่ออายุสมาชิกโครงการแนวร่วมปฏิบัติภาคเอกชนไทยในการต่อต้านคอร์รัปชัน (CAC)

441
ล้านบาท

มีผลการดําเนินงานโดย รวมกําไรสุทธิ

สุดท้ายนี้ในนามของบริษัทฯ ผมและคณะกรรมการบริษัท ขอขอบคุณท่านผู้ถือหุ้น คู่ค้า สถาบันการเงิน พันธมิตรทางธุรกิจ และผู้มีอุปการคุณทุกท่าน ที่ให้ความไว้วางใจ และสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ มาอย่างต่อเนื่อง และขอขอบคุณผู้บริหารและพนักงานของบริษัทฯ ทุกคนที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อขับเคลื่อนองค์กรให้บรรลุเป้าหมายเป็นผลสำเร็จร่วมกัน จนทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯอยู่ในระดับที่น่าพอใจอย่างมาก และขอให้เชื่อมั่นว่า บริษัทฯจะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาองค์กรให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมั่นคง เพื่อสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมแก่ผู้ถือหุ้น และดูแลผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย ให้เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน